ปุ๋ยคอก: ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก

สาระน่ารู้ปุ๋ยคอก

ธาตุอาหารในปุ๋ยคอกแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ดังนี้

 

1.ความเข้มข้นของธาตุอาหาร : จากการวิเคราะห์ความเข้มข้นของธาตุอาหารในปุ๋ยคอก จะขึ้นอยู่กับคุณภาพอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์และการเก็บรักษาปุ๋ยคอก โดยปกติการย่อยอาหารของสัตว์จะสามารถดูดซึมสารอาหารไปได้เพียงบางส่วน ที่เหลือจะถูกขับออกมากับมูลสัตว์ ประมาณร้อยละ 75 ของไนโตรเจน ร้อยละ 80 ของฟอสฟอรัส และร้อยละ 90 ของโพแทสเซียมในอาหารจะตกค้างอยู่ที่มูลสัตว์ ดังนั้นปุ๋ยคอกถึงเป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญของพืช สิ่งขับถ่ายของสัตว์มีตั้งของแข็งและของเหลว (ปัสสาวะ) ยกเว้นสัตว์ปีกที่ขับยูริก (uric acid) ที่เป็นของแข็งแทนปัสสาวะ ทุดส่วนมีธาตุอาหารเป็นองค์ประกอบด้วย โดยประมาณครึ่งหนึ่งของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส เกือบทั้งหมดและสองในห้าของโพแทสเซียม พบในสิ่งขับถ่ายที่เป็นของแข็ง ในปัสสาวะแม้จะมีธาตุอาหารบางธาตุน้อยกว่า แต่อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ได้ง่ายกว่า จึงไม่ควรปล่อยให้ปัสสาวะสัตว์สูยเสียไปโดยไม่ได้ประโยชน์

 ปุ๋ยคอก-คืออะไร5ปุ๋ยคอก-คืออะไร3

2.ปริมาณสิ่งขับถ่ายและปริมาณธาตุอาหาร

– มูลโค ปริมาณจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว

– มูลสุกร ประมาณร้อยละ 60 ของสารที่สุกรกิน จะถูกขับถ่ายออกมาเป็นอุจจาระและปัสสาวะ และปริมาณสิ่งขับถ่ายก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของสุกรเช่นกัน รวมถึงคุณภาพของอาหารที่ใช้เลี้ยง และสภาพแวดล้อมในการเลี้ยง ในปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมในมูลสุกรที่มีน้ำหนักตัว 100 กิโลกรัม จะอยู่ในช่วงต่อไปนี้ คือ ไนโตรเจน 19-64 กรัมN/วัน ฟอสฟอรัส 11-20 กรัม P/วัน โพแทสเซียม 8-48 กรัม K/วัน

– มูลไก่ มีความแตกต่างตามสภาพของการเลี้ยง คือ มูลไก่ไข่ซึ่งเลี้ยงในกรงตับ ไม่มีวัสดุรองพื้น (litter material) ปนและในมูลไก่กระทงซึ่งเลี้ยงรวมกันบนพื้นคอกซึ่งเป็นดินหรือพื้นคอนกรีต โดยมีวัสดุรองพื้นกรง เช่น แกลบ ขี้เลื่อย วัสดุอื่น เพื่อให้ดูดความชื้นจากน้ำที่ใช้เลี้ยงและสิ่งขับถ่าย เมื่อวัสดุรองพื้นหมดอายุก็จะเก็บกวาดออก แล้วนำไปเป็นวัสดุบำรุงดิน สำหรับมูลของไก่ไข่และไก่กระทงในแต่ละวันจะอยู่ที่ 73 กิโลกรัม และ 87 กิโลกรัม ต่อน้ำหนักตัวสัตว์ที่มีชีวิต 1000 กิโลกรัม ส่วนความเข้มข้นของธาตุอาหารนั้น มูลไก่จะมีความเข้มข้นมากกว่ามูลสัตว์ชนิดอื่นๆ มูลไก่ที่รวบรวมได้ภายหลังมีไนโตรเจนและฟอสฟอรัสต่ำกว่ามูลไก่สด เนื่องจากสารบางส่วนจะหายไประหว่างอยู่ในคอก หรือเจือจางลงเพราะมีสิ่งอื่นเจอปน มูลไก่ มีแอมโมเนียมเป็นองค์ประกอบประมาณร้อยละ 30 ของไนโตรเจนทั้งหมดของมูลไก่ขังกรงและมูลไก่ในวัสดุรองพื้นคอก แต่กรดยูริกเป็นองค์ประกอบสำคัญของไนโตรเจนในมูลสด

 ปุ๋ยคอก-ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก1

สารที่มีธาตุอาหารในปุ๋ยคอก

จากผลการวิเคราะห์ปุ๋ยคอกทางเคมีแสดงเพียงปริมาณทั้งหมดของธาตุหลัก ธาตุรองและจุลธาตุ ว่าแต่ละธาตุมีปริมารเท่าใด ส่วนความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารนั้น ไม่สามารถบอกได้จากการวิเคราะห์ แต่ต้องทำการทดลองในแปลงทดลองเท่านั้น

 

-ไนโตรเจน ในปุ๋ยคอกมีอยู่ 3 ส่วน คือ ส่วนที่พืชใช้ประโยชน์ได้ง่าย เช่น แอมโมเนียมไอออน ไนเทรตไอออนหรือยูเรีย ส่วนที่ 2 คือ ส่วนที่เป็นอินทรีสารซึ่งปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆภายในช่วงเวลา 1 ปี และส่วนที่ 3 ส่วนที่เป็นอินทรีสารที่สลายยากและปลดปล่อยธาตุอาหารช้ามาก โดยจะเริ่มปลดปล่อยเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่ 2 สำหรับปุ๋ยคอกแบบแห้งมีไนโตรเจนสามส่วนประมาณ 10, 45 และ 45% ตามลำดับ ส่วนปุ๋ยคอกแบบเหลวที่ผ่านการหมักในบ่อเก็บ มีไนโตรเจนสามส่วนประมาณ 50, 30 และ 20 % ตามลำดับ มูลของสัตว์ปีกมีกรดยูริก ซึ่งจะถูกย่อยสลายเป็นแอมโมเนียแล้วระเหยไป วิธียับยั้งการสูญเสียแอมโมเนียในมูลสัตว์ปีกคือทำให้แห้งโดยเร็ว ปัจจุบันการนำมูลสัตว์ปีกมาอัดเป็นเม็ด (tablet) เพื่อลดฝุ่นและใช้ได้สะดวก เมื่อนำมาทดสอบมินเนอราลไลเซชันของคาร์บอนและไนโตรเจน หลังจากใส่ในดิน 60 วัน ปุ๋ยที่อัดเม็ดและที่ไม่อัดเม็ด มีมินเนอราลไลเซซันของคาร์บอน 77 และ 62 % ของคาร์บอนในปุ๋ยตามลำดับ ปุ๋ยที่อัดเม็ดและที่ไม่อัดเม็ด มีมินเนอราลไลเซซันของไนโตรเจนสะสม 83.1 และ 75.5 มก/กก ดิน ตามลำดับ ในมูลโค แบ่งไนโตรเจนได้ 3 ประเภท คือ ไนโตรเจนทั้งหมด (total N) ในดิน 2 ชนิดซึ่งมีเนื้อดินร่วนปนทรายและร่วนปนทรายแป้ง โดยใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 100 มก.อินทรีย์ไนโตรเจน/กก. ดิน ในช่วงเวลา 176 วัน ปรากฏว่าอัตรามินเนอราลไลเซซันสุทธิ ในดินร่วนปนทรายมีค่า -0.144 ถึง 0.160 มก N /กก. ดิน/วัน และในดินร่วนปนทรายแป้งมีค่า 0.028 ถึง 0.158 มก.N/กก.ดิน/วัน สำหรับอัตรามินเนอราลไลเซซันของปุ๋ยคอกที่ผสมดินร่วนปนทรายมีค่าติดลบนั้น แสดงว่าแทนที่ปุ๋ยคอกจะปลดปล่อยไนโตรเจนในรูปที่เป็นประโยชน์ออกมา กลับทำให้แอมโมเนียมในปุ๋ยหรือในดิน แปรสภาพเป็นอินทรีสารซึ่งพืชใช้ประโยชน์ไม่ได้ แสดงว่าสมบัติของปุ๋ยคอกบางประการมีผลต่ออัตรามินเนอราลไลเซซันสุทธิ

สำหรับสมบัติของปุ๋ยคอกที่มีสหสัมพันธ์เชิงบวกกับอัตรามินเนอราลไลเซซันสุทธิและอัตราการเปลี่ยนแอมดมเนียมเป็นไนเทรตหรือที่เรียกกันว่า ไนตริฟิเคชัน คือ ไนโตรเจนทั้งหมด อินทรีย์ไนโตรเจน และแอมโมเนียมไนโตรเจนที่สกัดได้ ซึ่งหมายความว่า หากค่าวิเคราะห์ทั้ง 2 ค่านี้สูง ปุ๋ยคอกจะปลดปล่อยแอมดมเนียมได้ง่าย ส่วนสมบัติของปุ๋ยคอกที่มีสหพันธ์เชิงลบกับสองกระบวนการดังกล่าวคือ ปริมาณเส้นใย อัตราส่วนระหว่างปริมาณคาร์บอนทั้งหมด : ไนโตรเจนทั้งหมด อัตราส่วนระหว่างปริมาณคาร์บอนทั้งหมด : อินทรีย์ไนโตรเจน อัตราส่วนระหว่างปริมาณคาร์บอนทั้งหมด : แอมโมเนียมไนโตรเจนที่สกัดได้ และอัตราส่วนระหว่างปริมาณเส้นใย : ไนโตรเจนทั้งหมด หรืออินทรีย์ไนโตรเจนหรือแอมโมเนียมไนโตรเจนที่สกัดได้

 ปุ๋ยคอก-ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก2ปุ๋ยคอก-ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก3

-ฟอสฟอรัส ในปุยคอกมีทั้งเป็นอินทรียสารและอนินทรียสาร มูลแกะมีฟอสฟอรัสประมาณร้อยละ 1 ในจำนวนอนินทรียสารร้อยละ 82 และอินทรีสารร้อยละ 18 ของที่มีอยู่ หากแจงฟอสฟอรัสในอินทรียสารจะได้ 4 ส่วน คือ

1.ประกอบเป็นฟอสโฟลิพิด (phospholipids) ร้อยละ 0.3

2.อยู่ในโปรตีนร้อยละ 12.1

3.อยู่ในอินทรียสารซึ่งละลายในกรดไตรคลอโรแอซิติก ร้อยละ 3.1

4.ประกอบเป็นสารอินทรีย์อื่นๆอีกร้อยละ 2.5 ของฟอสฟอรัสทั้งหมด

สัตว์นั้นได้รับฟอสฟอรัสจากการกินพืช กระดูกและเกลือฟอสเฟต สำหรับฟอสฟอรัสที่สัตว์ปีกได้รับจากอาหาร ส่วนมากอยู่ในรูปของเกลือไฟเทตหรือเกลือของกรดอินโนซิทอลเฮ็กซาฟอสฟอริก (inositol hexaphosphoric acid) ซึ่งสัตว์ย่อยและดูดซึมไปใช้ได้น้อย ดังนั้นเกลือไฟเทตส่วนใหญ่จึงถูกขับออกมาพร้อมกับอุจจาระ เมื่อเกลือนี้อยู่ในดินจะถูกจุลินทรีย์ย่อยแล้วปลดปล่อยฟอสเฟตไอออนออกมาให้พืชได้ใช้ประโยชน์ได้ โดยปกติสารประกอบอินทรีย์ฟอสเฟตในดินมีอยู่ 3 พวก คือ เกลืออินโนซิทอลเฮ็กซาฟอสเฟต (inositol hexaphosphates) ฟอสโฟลิพิดและกรดนิวคลิอิก (nucleic acids) นอกจากนี้อาจพบฟอสโฟโปรตีนและน้ำตาลฟอสเฟต (sugar phosphate) ด้วย ในบรรดาสารประกอบเหล่านี้ มีอินโนซิทอลเฮ็กซาฟอสเฟตประมารร้อยละ 50 ของอินทรีย์ฟอสเฟตทั้งหมด ในแง่ของความเป็นประโยชน์นั้น พืชสามารถใช้ฟอสฟอรัสจากกลีเซอรอลฟอสเฟต (glycerol phosphateป น้ำตาลฟอสเฟตอินโนซิทอลเฮ็กซาฟอสเฟตและกรดนิวคลิอิก ซึ่งจุลินทรีย่อยสลายรวดเร็วได้ดีเทียบเท่าปุ๋ยอนินทรีย์ฟอสเฟต ส่วนฟอสฟอรัสในปุ๋ยคอกที่พืชใช้เป็นประโยชน์ค่อนข้างง่าย คือฟอสฟอรัสในรูปเหล่านี้ ส่วนพวกที่มีโมเลกุลใหญ่สลับซับซ้อนกว่า ก็จะถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายในเวลาที่นานขึ้นพืชจึงได้รับประโยชน์ตามมาทีหลัง

ปุ๋ยคอก-ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก5ปุ๋ยคอก-ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก4

-โพแทสเซียมและแมกนีเซียม โพแทสเซียมในปุ๋ยคอกจะอยู่ในรูปเกลือที่ละลายน้ำง่ายและเป็นประโยชนืแก่พืช หากเก็บปุ๋ยคอกไว้ในที่โล่งแจ้ง โพแทสเซียมก็จะถูกฝนชะล้างได้ ส่วนแมกนีเซียมประมาณครึ่งหนึ่งละลายน้ำง่าย แต่อีกครึ่งหนึ่งไม่ละลายแม้จะใช้กรดเจือจางก็ตาม

-ธาตุอาหารในมูลค้างคาว มูลค้างคาวจัดเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มาจากสัตว์ มีสมบัติหลายอย่างแตกต่างจากมูลสัตว์เลี้ยงทั่วไปและไม่ได้รวบรวมมาจากคอกจึงไม่เรียกว่าปุ๋ยคอก แต่เรียกตรงตัวว่า “ ปุ๋ยมูลค้างคาว “ (bat guano) โดยการเก็บรวบรวมจากถ้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วนะมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรปลูกไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผล ปุ๋ยชนิดนี้เกษตรกรนิยมใช้กันมานาน ในปัจจุบันประเทศเปรูเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยมูลค้างคาวไปจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา โดยเก็บรวบรวมจากถ้ำและนำมาร่อนผ่านตะแกรง บรรจุลงกระสอบหลายขนาด สำหรับความเข้มข้นของธาตุอาหารในมูลค้างคาวแตกต่างกันตามความสมบูรณ์ของแหล่งอาหารที่ค้างคาวออกไปหากิน ชนิดและองค์ประกอบของหินพื้นถ้ำ ความยาวนานของการสลายหรืออายุของมูลค้างคาว ค้างคาวจะกินผลไม้และแมลงเป็นอาหาร อายุของมูลจะแตกต่างกันไป ตั้งแต่มูลสดแปรสภาพเป็นหินบางส่วน (semi – fossilized guano) หรือแปรสภาพเป็นหินทั้งหมด (fossilized guano) หรือหินฟอสเฟตจากมูลค้างคาว สำหรับปุ๋ยมูลค้างคาวและหินฟอสเฟตที่เกิดจากมูลค้างคาวที่พบในประเทศไทย มีปริมาณฟอสฟอรัสแตกต่างกัน เช่น มูลค้างคาวที่พบในจังหวัดกระบี่และพังงา มีฟอสเฟตทั้งหมด 2.95 – 11.89 % โดย 28.47 – 94.73% ของทั้งหมดคือฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์ และหินฟอสเฟตที่เกิดจากมูลค้างคาวซึ่งพบในจังหวัดพังงา กระบี่และเลย มีฟอสเฟตทั้งหมด 19.28 – 24.23 % โดย 39.82 – 93.12 % ของทั้งหมดคือฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์

 

และในบทความถัดไป เราจะมาพูดกันถึงปุ๋ยคอกกับเทคโนโลยีการปรับสภาพมูลสัตว์กันค่ะ

 

ปุ๋ยคอก: ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก

ปุ๋ยคอก: ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก

ปุ๋ยคอก: ธาตุอาหารในปุ๋ยคอก