ปุ๋ยนาข้าว : ธาตุอาหารหลักของข้าว

สาระน่ารู้เกี่ยวกับปุ๋ยนาข้าว

การใช้ปุ๋ยนา ตอน ความต้องการธาตุหลักของข้าว

ความต้องการของธาตุอาหารของข้าวจากปุ๋ยในแต่ละช่วงของการเจริญเติบโต มีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือช่วงที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง ความต้องการธาตุอาหารก็จะสูงตามไปด้วย ในระยะการเติบโตไม่อาศัยเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้นข้าวเริ่มแตกกอ เพิ่มความสูงและขนาดใบจนก่อนถึงระยะเจริญพันธุ์ กราฟการเพิ่มน้ำหนักแห้งจะเป็นแบบซิกมอยด์ โดยความชันของกราฟช่วงท้ายจะลดลงเล็กน้อยในข้าวหนัก แต่เมื่อเริ่มระยะเจริญพันธุ์ คือมีตากำเนิดช่อดอกที่ข้อบนสุด (IPP) เป็นต้นไป น้ำหนักแห้งจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีการพัฒนาช่อดอกและการเจริญเติบโตของเมล็ดในรวง อย่างไรก็ตามสำหรับข้าวเบานั้น กราฟของการสะสมน้ำหนักแห้งที่เพิ่มขึ้น นับจากเริ่มแตกกอจนถึงการพัฒนาเมล็ดมีความต่อเนื่องกัน แล้วค่อยๆลาดจนถึงระยะเมล็ดสุกแก่

 ปุ๋ยนาข้าว--ธาตุอาหารหลักของข้าว6

ปุ๋ยไนโตรเจน

บทบาทของปุ๋ยไนโตรเจนในการให้ผลผลิตข้าว การสะสมในแต่ละระยะของการเจริญเติบโตและระดับวิกฤติของไนโตรเจนในข้าวมีดังนี้

  1. บทบาทของไนโตรเจนในการให้ผลผลิตของข้าว

การจัดการให้มีไนโตรเจนอย่างเพียงพอ ตั้งแต่ข้าวเริ่มแตกกอเป็นต้นไป จะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตเนื่องจาก

– จำนวนรวงต่อตารางเมตรซึ่งเป็นองค์ประกอบผลผลิตลำดับแรก ขึ้นอยู่กับจำนวนกอต่อพื้นที่และจำนวนหน่อในกอ ทั้งนี้เนื่องจากต้นข้าวมักจะแตกกอ (tillering) จนเต็มที่แล้ว จึงเริ่มยึดปล้อง แล้วสร้างตาดอกในลำดับต่อมา ปุ๋ยไนโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มการแตกกอของข้าวอย่างมาก

– ศักยภาพการให้จำนวนเมล็ดต่อรวง อันเป็นองค์ประกอบผลผลิตลำดับที่ 2 และพิจารณาจากจำนวนดอกต่อช่อดอก (panicle) นั้น ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของช่อดอกและความยาวของช่อดอกที่พัฒนาแล้ว ซึ่งได้รับอิทธิพลโดยตรงจากความสมบูรณ์ของธาตุอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งไนโตรเจนในต้นข้าวระยะเติบโตไม่อาศัยเพศ

– น้ำหนัก 1000 เมล็ดซึ่งเป็นองค์ประกอบผลผลิตลำดับสุดท้าย ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและความสมบูรณ์ของต้นข้าวในระยะเติบโตไม่อาศัยเพศเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เนื่องจากใบและต้นเป็นแหล่งของน้ำตาลและสารอินทรีย์อื่นๆที่เคลื่อนที่มาสะสมในเมล็ด

เนื่องจากผลผลิตข้าวมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ จำนวนรวงต่อตารางเมตร จำนวนเมล็ดต่อรวง น้ำหนัก 1000 เมล็ด และร้อยละของเมล็ดดี โดยองค์ประกอบผลผลิตเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อมีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในอัตราที่เหมาะสม หากเปรียบเทียบผลผลิตข้างต้นแล้ว ปุ๋ยไนโตรเจนช่วยเพิ่มจำนวนรวงต่อตารางเมตรมากที่สุด รองลงมาคือความยาวรงและน้ำหนัก 1000 เมล็ดตามลำดับ

ปุ๋ยนาข้าว--ธาตุอาหารหลักของข้าว5

1. การสะสมไนโตรเจนในแต่ละระยะของการเจริญเติบโต

นับจากที่ข้าวเริ่มเจริญเติบโตเป็นต้นไป การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอัตราสูงทำให้

– น้ำหนักแห้งของส่วนเหนือดินเพิ่มขึ้นมากและความเข้มข้นของไนโตรเจน (มิลลิกรัม.N/กิโลกรัม) ในส่วนเหนือดินก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยปกติเมื่อต้นข้าวเจริญเติบโตเต็มที่ น้ำหนักของส่วนเหนือดินทั้งหมด ประมาณครึ่งหนึ่งของน้ำหนักรวม

– ไม่ว่าจะใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอัตราใด ความเข้มข้นของไนโตรเจนในส่วนเหนือดินจะลดลงเมื่อข้าวมีอายุมากขึ้น

– การสะสมไนโตรเจนในส่วนเหนือดิน (กิโลกรัม.N/ไร่) เพิ่มขึ้นตามอัตราปุ๋ยที่ใช้และเพิ่มขึ้นตามอายุของต้นข้าวด้วย

ข้าวเมื่อมีอายุมากขึ้นก็มีน้ำหนักแห้งเพิ่มขึ้นตามลำดับ ปริมาณไนโตรเจนที่สะสมก็สูงขึ้นด้วย หากพิจารณาน้ำหนักแห้งของส่วนเหนือดินและปริมาณไนโตรเจนที่สะสมได้ทั้งหมดในขั้นตอนสุดท้าย พบว่าสำหรับข้าวที่ได้รับปุ๋ยไนโตรเจนอย่างพอเหมาะนั้น ก่อนที่จะสะสมน้ำหนักแห้งจนจนได้ครึ่งหนึ่งของน้ำหนักทั้งหมดในระยะเก็บเกี่ยว ข้าวได้สะสมน้ำหนักแห้งจนได้ไนโตรเจนที่ข้าวได้รับจากปุ๋ยที่ใส่ ยังต้องมาจากการปลดปล่อยโดยกระบวนการมินเนอราลไลเซชันของอินทรียวัตถุในดินอีกประมาณร้อยละ 20 ด้วย

เนื่องจากไนโตรเจนเป็นธาตุที่เคลื่อนย้ายง่าย ดังนั้นส่วนที่สะสมในต้น ใบแก่และใบล่างๆจึงเคลื่อนย้ายไปยังใบอ่อนและรวงมาก ประมาณว่าเมื่อต้นข้าวแก่ ร้อยละ 60-70 ของไนโตรเจนในส่วนเหนือดินไปสะสมในรวงและร้อยละ 86 ของธาตุนี้ในรวงมาจากสองแหล่งคือ ร้อยละ 58 จากแผ่นใบและร้อยละ 28 จากกาบใบและลำต้น ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 14 ได้มาจากดินโดยตรง จึงเห็นได้ว่าไนโตรเจนที่มีในรวงข้าวส่วนมาก เคลื่อนย้ายจากส่วนที่ต้นและใบเก็บสะสมไว้ตั้งแต่เป็นต้นกล้าจนถึงระยะออกดอก เพื่อการพัฒนารวงให้มีเมล็ดสมบูรณ์ ดังนั้นการใส่ปุ๋ยเพื่อให้ต้นข้าวได้รับไนโตรเจนอย่างเพียงพอตั้งแต่แรก จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้ได้ผลผลิตสูง สำหรับข้าวที่ให้ผลผลิตสูงนั้นมีน้ำหนักตอซังและเมล็ดรวมกัน 2560-4480 กิโลกรัม/ไร่ ทั้งสองส่วนนี้มีไนโตรเจนทั้งหมด 25.6-44.8 กิโลกรัม.N/ไร่

ปุ๋ยนาข้าว--ธาตุอาหารหลักของข้าว4

2. ระดับวิกฤตของไนโตรเจน

การใช้ความเข้มข้นของไนโตรเจน เพื่อประเมินระดับความพอเพียงของธาตุนี้ในข้าวต้องแปลความหมายด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้เนื่องจากความเข้มข้นของไนโตรเจนในเนื้อเยื่ออาจไม่เพิ่มขึ้นตามอัตราปุ๋ยที่ใช้ เนื่องจากธาตุนี้ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นและใบ ทำให้ธาตุอาหารที่สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อพืชเจือจางลงแทนที่จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความเข้มข้นส่วนเหนือดินยังลดลงอย่างมากในระยะเจริญพันธุ์

อย่างไรก็ตามความเข้มข้นของไนโตรเจนในใบระยะแตกกอ มีความสัมพันธ์กับการแตกกออย่างมาก กล่าวคือการแตกกอจะหยุดหากความเข้มข้นของไนโตรเจนในแผ่นใบต่ำกว่า 20 กรัม.N/กิโลกรัม แต่จำนวนหน่อต่อกอจะเพิ่มเป็นเส้นตรง เอความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง 50 กรัม.N/กิโลกรัม สำหรับระดับวิกฤติของธาตุในแต่ละระยะของจากเจริญเติบโต ดังนี้

– ระยะแตกกอรวดเร็ว ความเข้มข้นในแผ่นใบบนสุด (Y blade หรือ youngest emerged leaf หรือ YEB) 24-28 กรัม.N/กิโลกรัม

– ระยะกำเนิดช่อดอก ความเข้มข้นในแผ่นใบบนสุด 25-32 กรัม.N/กิโลกรัม

– ระยะออกดอก ความเข้มข้นในแผ่นใบซึ่งเพิ่งเจริญเติบโตเต็มที่ (youngest mature leaf หรือ YMB) 26-42 กรัม.N/กิโลกรัม

 ปุ๋ยนาข้าว--ธาตุอาหารหลักของข้าว3

ปุ๋ยฟอสฟอรัส

ความเข้มข้นของฟอสฟอรัสในสารละลายดิน การสะสมและระดับวิกฤตของฟอสฟอรัสในข้าว เป็นดังนี้

1.ความเข้มข้นของฟอสฟอรัสในสารละลายดิน

แม้ว่าสภาพรีดักชันของดินนาน้ำขัง จะทำให้ความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสในดินสูงขึ้นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ในสภาพดังกล่าว อำนาจการตรึงฟอสฟอรัสของดินก็ยังสูง หากดินมีเหล็กบางรูปอยู่มาก อย่างไรก็ตามความเข้มข้นของฟอสเฟตไอออนในสารละลายดิน ที่เพียงพอกับการเจริญเติบโตของข้าวไม่จำเป็นต้องสูงนัก มีเพียง 0.12-0.20 มิลลิกรัม P/ลิตร ก็ทำให้ได้ผลผลิตสูงแล้ว

2.การสะสมฟอสฟอรัสในข้าว

ฟอสฟอรัสเป็นธาตุที่เคลื่อนย้ายในพืช ความเข้มข้นของธาตุนี้ในใบส่วนบนของต้นข้าวจึงสูงกว่าใบล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรากข้าวดูดจากดินได้น้อย โดยปกติปริมาณฟอสฟอรัสที่ข้าวสะสมไว้ในส่วนเหนือดินจะสูงตามอายุและเมื่อโตเต็มที่อาจสะสมได้ 4-8 กิโลกรัม P/ไร่ โดยร้อยละ 60-70 ของทั้งหมดอยู่ในรวง ต้นข้าวในดินที่ขาดฟอสฟอรัสจะสะสมธาตุนี้ได้มากขึ้นเมื่อเพิ่มอัตราปุ๋ยฟอสเฟต โดยปริมาณที่พบในส่วนเหนือดินจะเพิ่มขึ้นตามอายุ นับตั้งแต่ปลูกจนถึงระยะออกดอก แต่หลังจากออกดอกแล้วธาตุนี้จะเคลื่อนย้ายไปสะสมในเมล็ดจึงเหลือในต้นและใบน้อยลง นอกจากนี้ฟอสฟอรัสที่ไปเลี้ยงเมล็ด ยังเคลื่อนย้ายมาจากระบบรากหรือที่รากดูดได้ภายหลังการออกดอกด้วย

ดัชนีฟอสฟอรัสที่เก็บเกี่ยว (P harvest index, PHI) คือสัดส่วนระหว่างปริมาณฟอสฟอรัสในเมล็ดกับปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมดของส่วนเหนือดิน [grain P /(straw P+grain P)] โดยทั่วไปมีค่า 0.60 – 0.75 แสดงว่าการเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าว ได้นำเอาฟอสฟอรัสที่เคยสะสมในส่วนเหนือดินออกไปเป็นส่วนมาก ที่เหลือในตอซังจึงมีน้อย แม้จะพรวนกลบตอซังก็หมุนเวียนฟอสฟอรัสลงสู่ดินได้ไม่มากนัก จึงควรให้ความสำคัญเรื่องการใช้ปุ๋ยฟอสเฟตอย่างเหมาะสม

3.ระดับวิกฤติของฟอสฟอรัส

สำหรับระดับวิกฤตของฟอสฟอรัสในข้าว แตกต่างกันตามระยะการเจริญเติบโตดังนี้

– อายุ 25, 50 และ 75 วัน หลังจากหวานเมล็ด ความเข้มข้นในส่วนเหนือดิน 7-8, 1.8-2.6 และ 2.6-3.6 กรัม P/กิโลกรัม ตามลำดับ

– ในระยะแตกกอ หากความเข้มข้นของฟอสฟอรัสในแผ่นใบซึ่งเจริญเต็มที่ต่ำกว่า  0.3 กรัม P/กิโลกรัม ข้าวจะไม่แตกกอและต้องมีถึง 2.0 กรัม P/กิโลกรัม จึงทำให้การแตกกอสูงสุด

– ระยะกำเนิดช่อดอก ความเข้มข้นในส่วนเหนือดินควรมีค่า 2.5-4.5 กรัม P/กิโลกรัม

– ช่วงท้ายของระยะตั้งท้อง หากความเข้มข้นในใบธงมีค่า 2.0 กรัม P/กิโลกรัม จะให้ผลผลิตสูง

– เมื่อข้าวสุกแก่ ความเข้มข้นในตอซัง 0.8-1.0 กรัม P/กิโลกรัม หากความเข้มข้นในตอซังต่ำกว่า 0.6 กรัม P/กิโลกรัม แสดงว่าขาดแคลน

 ปุ๋ยนาข้าว--ธาตุอาหารหลักของข้าว1

ปุ๋ยโพแทสเซียม

การสะสมและระดับวิกฤตของโพแทสเซียมในข้าวเป็นดังนี้

1.การสะสมโพแทสเซียมในข้าว

ปุ๋ยโพแทสเซียมส่วนมากที่ข้าวสะสมไว้เพื่อการเจริญเติบโตนั้น รากข้าวได้ดูดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระยะการเติบโตไม่อาศัยเพศจนถึงต้นระยะเจริญพันธุ์ กล่าวคือโพแทสเซียมประมาณร้อยละ 75 ข้าวดูดได้มาก่อนตั้งท้อง แล้วสะสมไว้ในใบและต้น ดังนั้นเมื่อข้าวสุกแก่ประมาณร้อยละ 80-90 ของโพแทสเซียมทั้งหมด ยังคงอยู่ในใบและต้นข้าว เมื่อถึงวันที่เก็บเกี่ยวปริมาณโพแทสเซียมทั้งหมดที่สะสมในตอซังและเมล็ดมีประมาณ 40 กิโลกรัม.K/ไร่ ซึ่งเพียงพอสำหรับการให้ผลผลิตข้าวเปลือก 1 ตัน แต่ในข้าวเปลือกจากพื้นที่ 1 ไร่ จะมีโพแทสเซียมเพยง 2.8 กิโลกรัม ( 2.8กรัม.K/กิโลกรัม) ดังนั้นหากพรวนกลบฟางข้าวหลังการเก็บเกี่ยวลงในดิน จะช่วยหมุนเวียนธาตุนี้ให้พืชที่ปลูกตามมาได้มาก

2.ระดับวิกฤตของโพแทสเซียม

ระดับวิกฤตของโพแทสเซียมในข้าวมีดังนี้

– อายุ 25, 50 และ 75 วัน หลังจากหวานเมล็ด ความเข้มข้นในส่วนเหนือดิน 37-42, 37-40 และ 35-36 กรัม K/กิโลกรัม ตามลำดับ

– ระยะแตกกอรวดเร็วและแตกกอสูงสุด ความเข้มข้นในแผ่นใบบนสุด 12 และ 10 กรัม K/กิโลกรัม ตามลำดับ

– ระยะสุกแก่ ความเข้มข้นในตอซัง 10 กรัม K/กิโลกรัม

 ปุ๋ยนาข้าว--ธาตุอาหารหลักของข้าว2

ในส่วนถัดมาจะกล่าวถึงสาระน่ารู้เกี่ยวกับปุ๋ยนาข้าวตอนการใช้ปุ๋ยเคมีค่ะ

 

สาระน่ารู้เกี่ยวกับปุ๋ยนาข้าว

ปุ๋ยนาข้าว : ธาตุอาหารหลักของข้าว

ปุ๋ยนาข้าว : ธาตุอาหารหลักของข้าว