การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกข้าวโพด : ความเข้มข้นของธาตุอาหาร 1

สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่

 

การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกข้าวโพด 

ความเข้มข้นของธาตุอาหาร 1

 

เมื่อต้นข้าวโพดมีอายุมากขึ้น อัตราส่วนระหว่างไซโทพลาสซึมต่อส่วนที่เป็นโครงสร้างจะลดลงเป็นเหตุให้ความเข้มข้นของไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในส่วนเหนือดินลดลงด้วย สำหรับต้นข้าวโพดที่ไดรับไนโตรเจนเพียงพอนั้น ต้นกล้าจะมีไนโตรเจน 4-5 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อต้นแก่จะมีประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หากเป็นต้นแก่ที่ขาดไนโตรเจนแล้วจะมีธาตุนี้เพียง 0.4-0.5 เปอร์เซ็นต์ ความเข้มข้นของฟอสฟอรัสก็จะลดลงตามอายุพืชเช่นเดียวกัน ในขณะที่เป็นต้นอ่อนมีฟอสฟอรัส 0.6 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากออกไหม ความเข้มข้นของธาตุนี้จะเหลือเพียง 0.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

 

เมล็ดนั้นเป็นแหล่งสะสมของธาตุไนโตรเจนของข้าวโพด ในช่วงที่เก็บเกี่ยวเมล็ดนั้นมีไนโตรเจน 1-2 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอซังจะมีธาตุนี้ 0.6-1.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะนั้นน้ำหนักของเมล็ดมีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักส่วนเหนือดิน ดังนั้นเมล็ดข้าวโพดจึงสะสมไนโตรเจนไว้ราว 50-80 เปอร์เซ็นต์ ของไนโตรเจนในส่วนเหนือดินทั้งหมด สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไนโตรเจนในข้าวโพดกับผลผลิตเป็นดังนี้ เมื่อความเข้มข้นของไนโตรเจนสูงขึ้นจาก 28 เป็น 40 กรัม.N/กิโลกรัม ผลผลิตสัมพันธ์ก็จะเพิ่มจาก 40 เป็น 90 เปอร์เซ็นต์ แต่การเพิ่มความเข้มข้นจาก 40 ไปจนถึง 48 กรัม.N./กิโลกรัม ก็จะไม่เพิ่มความสัมพันธ์อีกต่อไป

 

ความสัมพันธ์ระหว่างเข้มข้นของโพแทสเซียม ในใบรองฝักข้าวโพดกับผลผลิตสัมพันธ์ แสดงว่าระดับวิกฤตขาดแคลนของโพแทสเซียม ในระยะที่ข้าวโพดออดดอกคือ 13 กรัม.K./กิโลกรัม การเก็บเกี่ยวข้าวโพดในแต่ละปี เป็นเหตุให้ดินสูญเสียธาตุอาหารไปมาก เนื่องจากเมล็ด 1 ตันที่เก็บเกี่ยวออกไปได้นำเอาไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมออกไปจากดิน 16 กิโลกรัม.N., 3 กิโลกรัม.P และ 3 กิโลกรัม.K ตามลำดับ

 

 

สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่