การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกฝ้าย : ดินและน้ำ
สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่
การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกฝ้าย
ดินและน้ำ
แม้ว่าฝ้ายที่ปลูกสำหรับเป็นการค้าจะมีมากมายหลากหลายชนิด (species) แต่ Gossypium hirsutum L. ได้รับความนิยมปลูกกันมากที่สุด เนื่องจากให้ผลผลิตค่อนข้างสูงและปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี พืชชนิดนี้เจริญได้ในดินที่มีเนื้อดินต่างกันตั้งแต่ดินทรายถึงดินเหนียว แต่ระดับน้ำใต้ดินต้องต่ำกว่า 60 เซนติเมตร เนื่องจากฝ้ายไม่ชอบสภาพน้ำขังและรากตายเมื่อขาดออกซิเจนเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ฝ้ายเป็นพืชที่ทนกรด ระดับ pH วิกฤตมีค่า 5.5-6.0 แต่ไม่ชอบด่าง หาก pH สูงกว่า 8.0 ฝ้ายจะไม่เจริญเติบโต นอกจากนี้พืชที่ทนเค็มได้ดี กล่าวคือการนำไฟฟ้าที่ผลผลิตเริ่มลด (salinity theshold) คือ 7.7 เดซิซีเม็นต่อเมตรและผลผลิตลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อปลูกในดินเค็มที่มีค่าการนำไฟฟ้า 17 เดซิซีเม็นต่อเมตร
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลกระทบต่อผลผลิตฝ้าย คือความชื้นในดิน ทั้งนี้เนื่องจากการขาดน้ำทำให้สังเคราะห์แสง การแบ่งเซลล์และการขยายขนาดเซลล์ของใบฝ้ายลดอย่างมาก กล่าวคือเมื่อศักย์น้ำของใบมีค่าต่ำกว่า -1.2 เมกาพาสคาล (MPa) การขยายขนาดเซลล์จะเริ่มลดลง หากต่ำกว่า -2.0 เมกาพาสคาล การสังเคราะห์แสงจะเริ่มลดลงด้วย นอกจากนี้การขาดน้ำยังมีผลกระทบต่อสมดุลของฮอร์โมนภายในต้นฝ้าย หากขาดน้ำในระยะเจริญพันธุ์ จะทำให้ใบ ดอกและสมอร่วง เป็นเหตุให้ผลผลิตลดลงประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ จึงอาจจะจัดระดับความเครียดจากการขาดน้ำ (water stress) จากศักย์น้ำของใบฝ้ายเป็น 3 ระดับดังนี้ ต่ำคือน้อยกว่า -1.5 เมกาพาสคาล หากค่อนข้างต่ำ -1.5 ถึง-2.0 เมกาพาสคาล ระดับปานกลาง -2.0 ถึง -2.5 เมกาพาสคาล และสูงคือ มากกว่า -2.5 เมกาพาสคาล
