ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์ : การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง

สาระน่ารู้เรื่องปุ๋ยแบบระบบเกษตรอินทรีย์

ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์--การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง5

การเริ่มเกษตรอินทรีย์ต้องการช่วงเปลี่ยนแปลง 3-5 ปี สำหรับปรับระบบเกี่ยวกับการกำจัดวัชพืช ควบคุมศัตรูพืช และการไถพรวนที่พอเหมาะ เป็นต้น เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพ ดังนั้นผลผลิตที่ได้จึงมักต่ำกว่าในช่วงหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบมีเสถียรภาพแล้ว นากจากนี้ยังต้องสังเกตด้วยว่าในบางช่วงที่พืชเจริญเติบโตเร็วและใช้ไนโตรเจนมาก อาจมีปัญหาขาดแคลนธาตุนี้ได้เช่นเดียวกัน ในกรณีดังกล่าวจำเป็นต้องปรับระบบการปลูกพืชหมุนเวียนบ้าง เช่น เพิ่มความถี่ในการปลูกพืชตระกูลถั่วในระบบ เป็นต้น อย่างไรก็ตามผลผลิตพืชในช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลง อาจใกล้เคียงกับการปลูกและบำรุงดินแบบเดิมก็ได้ ทัง้นี้ขึ้นอยู่กับระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินเมื่อเริ่มต้น ระบบการปลุกพืชหมุนเวียนชนิดและอัตราปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้ ผลการศึกษาในช่วงเวลา 4 ปี คือช่วงเปลี่ยนแปลง 3 ปีและเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ 1 ปี โดยมีรายละเอียดของวิธีการทดลองดังนี้

 ปุ๋ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์--การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง2

1. ใช้ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง คือ ดินในระดับ 0-15 เซนติเมตร มีอินทรีย์คาร์บอนทั้งหมด 24.1 กรัม.C./กิโลกรัม ค่า pH 6.2 ฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้เฉลี่ย 30 และ 313 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ตามลำดับ

 

2. ใช้ระบบข้าวโพด – ถั่วเหลือง – ข้าวโอ๊ต ร่วมกับอัลฟัลฟา

 

3. ใช้ปุ๋ยหมักจากมูลสุกรกับตอซังข้าวโพด ซึ่งมีธาตุหลักคือ 7.5 กรัม.N./กิโลกรัม 9.6 กรัม.P./กิโลกรัม และ 13.7 กรัม.K./กิโลกรัม อัตราปุ๋ยหมักที่ใช้คำนวณเป็นกิโลกรัม.N./ไร่ โดยในปีแรกใช้อัตรา 28 กิโลกรัม.N./ไร่ ส่วนปีที่ 2-4 ใช้ปีละ 21.4 กิโลกรัม.N./ไร่ ผลการทดสอบสรุปได้ว่า ทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ทั้งในช่วงเปลี่ยนแปลง 3 ปีและ 1 ปีที่เป็นเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบนั้น ให้ผลผลิตใกล้เคียงกับการปลูกและบำรุงดินแบบปกติ ซึ่งให้ยูเรีย-แอมโมเนียมไนเทรตอัตรา 21.4 กิโลกรัม.N./ไร่ เช่นเดียวกัน

 ปุ๋ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์--การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง3

ในด้านความอุดมสมบูรณ์ของดินนั้น การบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์และใช้ระบบการปลูกพืชหมุนเวียนตามที่ระบุไว้ ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3 ปีแรก ดังนี้ อินทรีย์คาร์บอนทั้งหมดในดินบนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 (จาก 24.1 กรัม.C/กิโลกรัม ในปีแรก เป็น 26.2 กรัม.C/กิโลกรัม ในปีที่ 3) ส่วนในการปลูกพืชหมุนเวียนที่ให้ปุ๋ยเคมีแบบเดิมนั้นอินทรีย์คาร์บอนทั้งหมดในดินบนเกือบจะไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือ มีอยู่ 24.1 กรัม.C/กิโลกรัม ในปีแรกและได้ 24.9 กรัม.C/กิโลกรัม ในปีที่ 3 นอกจากนี้การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในระบบการปลุกพืชหมุนเวียน ยังช่วยให้ความหนาแน่นรวมของดินต่ำ คือมีค่าอยู่ที่ 1.22 – 1.25 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร เท่านั้น

 ปุ๋ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์--การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง4

หากนำค่าความเข้มข้นของอินทรียคาร์บอนทั้งหมดและไนโตรเจนทั้งหมด มาแปลงเป็นปริมาณที่ดินได้รับต่อพื้นที่ (กิโลกรัม.C./ไร่ และ กิโลกรัม.N./ไร่) ในช่วงการเปลี่ยนแปลงปีที่ 3 และเป็นเกษตรอินทรีย์แล้วอีก 1 ปี รวมเป็น 4 ปีนั้น การปลุกพืชหมุนเวียนในระบบเกษตรอินทรีย์ได้เพิ่มอินทรีย์คาร์บอนทั้งหมด 864 กิโลกรัม.C/ไร่และไนโตรเจนทั้งหมด 73.1 กิโลกรัม.N/ไร่ หรือเพิ่มไนโตรเจนทั้งหมดเฉลี่ย 18.2 กิโลกรัม.N/ไร่ ซึ่งถือได้ว่าเพียงพอต่อการรักษาระดับไนโตรเจนในดินไว้

 

สาระน่ารู้เรื่องปุ๋ยแบบระบบเกษตรอินทรีย์

ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์ : การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง

ปุ๋ยระบบเกษตรอินทรีย์ : การบำรุงดินในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง