การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกข้าวโพด : ความต้องการธาตุอาหาร
สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่
การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกข้าวโพด
ความต้องการธาตุอาหาร
ข้าวโพดจะให้ผลผลิตสูงเมื่อได้รับธาตุอาหารเพียงพอและสมดุลกันการให้ปุ๋ยเพื่อเสริมธาตุที่พืชขาดจะช่วยให้การเจริญเติบโตได้ดี ควรต้องการธาตุหลักของข้าวโพดมีดังนี้
1.ไนโตรเจน ดินที่ใช้ปลูกข้าวโพดโดยทั่วไปขาดไนโตรเจนมากหรือน้อยแตกต่างกัน ดังนั้นการให้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างเหมาะสมจึงช่วยเพิ่มผลผลิตและกำไรจากการผลิต อัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่ควรใช้ขึ้นอยู่กับผลผลิตเป้าหมาย ศักยภาพในการปลดปล่อยไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ของดิน โดยกระบวนการมินเนอราลไลเซชัน อาจคำนวณอัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่ควรใช้กับข้าวโพด จากผลการวิเคราะห์ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน โดยการใช้สมการต่อไปนี้
Log (100-y) = 2 – 0.347b – 0.0377x
y = ผลผลิตที่ต้องการ (คิดเป็นร้อยละของผลผลิตสูงสุด)
X = อัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่ต้องใส่ (กิโลกรัม.N./ไร่)
B = % อินทรียวัตถุในดิน
การกำหนดอัตราปุ๋ยไนโตรเจนสำหรับข้าวโพดนั้น ควรพิจารณาระบบการปลูกด้วย กล่าวคือ การปลูกในระบบปลูกพืชหมุนเวียนที่มีพืชตระกูลถั่ว จะลดอัตราปุ๋ยไนโตรเจนลงได้บางส่วน เนื่องจากข้าวโพดที่ปลูกต่อจากพืชตระกูลถั่วจะได้รับไนโตรเจนตกค้างประมาณ 6 กิโลกรัม.N./ไร่
2.ฟอสฟอรัส นอกจากไนโตรเจนแล้ว ฟอสฟอรัสยังเป็นอีกธาตุหนึ่งที่มักมีปัญหาความขาดแคลนในดินไร่ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินกรด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณาการใส่ปุ๋ยฟอสเฟตเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว การแนะนำอัตราปุ๋ยฟอสเฟตสำหรับข้าวโพด ต้องอาศัยข้อมูลในเรื่องดังต่อไปนี้
– ระดับฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินไร่ที่ใช้ปลูก
– ระดับฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ซึ่งเหมาะสมกับข้าวโพด
– อัตราปุ๋ยฟอสเฟตที่ควรใส่
เพื่อยกระดับฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ จากเดิมมาสู่ระดับที่ต้องการ สำหรับระดับวิกฤตของฟอสฟอรัสในดินออกวิโซล จากการวิเคราะห์ด้วยวิธีของ Mehlich 1, Bray 1 และ Bray 2คือ 6 มิลลิกรัม.P./กิโลกรัม และ 10 มิลลิกรัม.P./กิโลกรัม ตามลำดับ นอกจากนี้ ต้องคำนึงถึงพันธุ์ข้าวโพดแต่ละพันธุ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยฟอสเฟตที่แตกต่างกันอีกด้วย สำหรับพันธุ์ข้าวโพดที่ดีที่สุด คือพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองดีต่อการใช้ปุ๋ยฟอสเฟต เนื่องจากสามารถเติบโตและให้ผลผลิตได้ระดับหนึ่งในดินซึ่งมีฟอสเฟตที่เป็นประโยชน์ต่ำและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดเมื่อใส่ปุ๋ยฟอสเฟตในอัตราไม่สูงนัก ส่วนพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการใช้ปุ๋ยฟอสเฟตนั้น ควรใช้ปุ๋ยฟอสเฟตอัตราต่ำ เพียงเพื่อชดเชยส่วนที่สูญหายไปในฤดูการปลูกเท่านั้น
3.โพแทสเซียม แม้ว่าปัญหาการขาดแคลนโพแทสเซียมในดินจะไม่มากเหมือนอย่างการขาดไนโตรเจนและฟอสฟอรัส แต่ผลการวิเคราะห์ดินจากพื้นที่ปลูกข้าวโพดอย่างต่อเนื่องก็จะพบว่ามักมีโพแทสเซียมสกัดได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำและมีพืชที่ตอบสนองโดยเพิ่มผลผลิตอย่างมาก เมื่อใช้ปุ๋ยโพแทสเพื่อเพิ่มระดับความเป็นประโยชน์ของธาตุในดินให้สูงขึ้น สำหรับวิกฤติของโพแทสเซียมในดินอัลติโซลซึ่งมีเนื้อดินเป็นดินร่วน คือ 55 มิลลิกรัม.K./กิโลกรัม (110 กิโลกรัม K./เฮ็กตาร์ หรือ 17.6 กิโลกรัม K./ไร่)ส่วนดินอัลติโซลซึ่งมีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายจะมีค่า 45 มิลลิกรัม K./กิโลกรัม (90 กิโลกรัม K./เฮ็กตาร์ หรือ 14.4 กิโลกรัม K./ไร่)
