การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกถั่วเขียว : การเจริญเติบโต พันธุ์และการปลูก
สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่
การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกถั่วเขียว
การเจริญเติบโต พันธุ์และการปลูก
ถั่วเขียว(Vigna radiate (L.) Wilczek; Vigna mungo (L.) Hepper) เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีระบบการปลูก 3 แบบ คือ ปลูกในระบบที่มีข้าวเป็นพืชหลัก ปลูกเป็นพืชแซมในแพวพืชหลัก เช่น มันสำปะหลังและอ้อยกับปลูกในระบบการปลูกพืชไร่อื่นๆ เช่น ปลูกก่อนหรือตามหลังพืชไร่ เช่น ข้าวโพดหรือข้าวฟ่าง เพื่อบำรุงดิน เพิ่มรายได้และช่วยตัดวงจรศัตรูพืช
การเจริญเติบโตของถั่วเขียวมี 2 ระยะ คือ ระยะการเจริญเติบโตไม่อาศัยเพศและระยะเจริญพันธุ์ มีดังนี้
- ระยะการเติบโตไม่อาศัยเพศ เริ่มจากเมล็ดงอก ต้นอ่อนโผล่พ้นดิน ใบเลี้ยงคลี่กาง มีใบจริงพัฒนาจากข้อแรกและตามด้วยใบจริงจากข้อที่ 2, 3 และลำดับถัดต่อมา
- ระยะเจริญพันธุ์ เริ่มตั้งแต่มีดอก ติดฝักและพัฒนาเมล็ด จนกระทั่งเมล็ดสุกแก่ สำหรับการใส่ปุ๋ยนั้น สัมพันธ์กับระยะการเจริญเติบโตของถั่วเขียว ซึ่งระบุให้ใส่ก่อนปลุกหรือหลังปลูก 20-25 วัน อันเป็นระยะการเติบโตไม่อาศัยเพศ เนื่องจากเป็นช่วงก่อนมีดอก กล่าวคือพันธุ์ที่ออกดอกค่อนข้างเร็ว เช่น ถั่วเขียวผิวมันพันธุ์ชัยนาท 60 มีอายุดอกแรกบาน 30-34 วัน ส่วนพันธุ์ที่ออกดอกค่อนข้างช้า เช่น ถั่วเขียวผิวดำพันธุ์อู่ทอง 2 มีอายุดอกแรกบาน 38-48 วัน
ถั่วเขียวที่ปลูกในประเทศไทยมี 2 พวกคือ ถั่วเขียวผิวมันและถั่วเขียวผิวดำ สำหรับถั่วเขียวผิวมันพันธุ์รับรองและอายุเก็บเกี่ยวฝักชุดแรก ได้แก่ พันธุ์อู่ทอง 1 (60-65 วัน) กำแพงแสน 1 (58 – 62 วัน) กำแพงแสน 2 (56-60 วัน) ชัยนาท 60 (52-56 วัน) มอ.-1 (56-60 วัน และชัยนาท 36 (56-60 วัน) ส่วนถั่วเขียวผิวดำมีพันธุ์รับรองสองพันธุ์ คือ อู่ทอง 2 อายุเก็บเกี่ยว 82-92 วันและพิษณุโลก 2 อายุเก็บเกี่ยว 75-85 วัน ถั่วเขียวเป็นพืชวันสั้น แต่พันธุ์ใหม่ๆมีความไวต่อช่วงแสงน้อยลง ส่วนถั่วเขียวผิวดำมันทุกพันธุ์ยังไวต่อช่วงแสง จึงต้องปลูกในช่วงที่วันเริ่มสั้น การปลุกแบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ต้นฤดูฝน ปลูกกลางเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ปลายฤดูฝน ปลูกในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน และฤดูแล้ง ปลูกในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธุ์
การปลุกมี 3 แบบ คือ การปลูกแบบหว่าน ใช้เมล็ดพันธุ์ 7-10 กิโลกรัม/ไร่ เป็นวิธีที่นิยมกันมาก การหยอดเป็นหลุม ใช้ระยะระหว่างแถว 50 เซนติเมตร และระหว่างหลุม 20 เซนติเมตร หยอดหลุมละ 3-4 เมล็ด ใช้เมล็ดพันธุ์ 4-6 กิโลกรัม/ไร่ และปลูกแบบโยเป็นแถว ถอนแยกให้เหลือ 15-20 ต้นต่อความยาวแถว 1 เมตร
