การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกฝ้าย : ธาตุอาหาร

สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่

 

การใช้ปุ๋ยพืชไร่ ตอน การปลูกฝ้าย 

ความเข้มข้นของธาตุต่างๆในใบฝ้ายที่แสดงว่าเพียงพอต่อความต้องการของต้นฝ้าย ในการดูดซึมเอาไปใช้เพื่อเจริญเติบโต มีดังนี้

 

ธาตุไนโตรเจน (N)

– ระยะการเจริญเติบโต 45 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบจากข้อที่ 3และ 4 จากยอดต้น ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายมากกว่า 50 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

– ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้าย 35-45 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุฟอสฟอรัส (P)

–          ระยะการเจริญเติบโต 45 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบจากข้อที่ 3และ 4 จากยอดต้น ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายมากกว่า 4 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้าย 3 – 5 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงระยะเริ่มติดผล ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้าย 3.1กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงเริ่มติดผล ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้าย 3.3 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงผลแก่เต็มที่ ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้าย 2.4 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุโพแทสเซียม (K)

–          ระยะการเจริญเติบโต 45 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบจากข้อที่ 3และ 4 จากยอดต้น ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายมากกว่า 32 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 76 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ก้านใบและแผ่นใบบนสุดที่แก่ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 49-62 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 101 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ก้านใบและแผ่นใบบนสุดที่แก่ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 46-60 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 120 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ก้านใบและแผ่นใบบนสุดที่แก่ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 25-40 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุแคลเซียม (Ca)

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 22-30 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุแมกนีเซียม (Mg)

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 5-9 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 34-105 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบทั้งหมด ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 6-8 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 34-105 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ก้านใบทั้งหมด ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 4-7 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุกำมะถัน (S)

–          ระยะการเจริญเติบโต 80-100 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบบนสุดที่แก่ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 6-10 กรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุสังกะสี (Zn)

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 20-60 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 43 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบบนสุดที่แก่ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 17-18 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุแมงกานีส (Mn)

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 50-350 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

–          ระยะการเจริญเติบโต 36 วันหลังปลูก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบบนสุดที่แก่ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 11-247 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุเหล็ก (Fe)

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 50-250 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุโบรอน (B)

–          ระยะการเจริญเติบโตช่วงออกดอกแรก ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ ใบบนสุดที่แก่แล้ว ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 20-60 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

ธาตุโมลิบดีนัม (Mo)

–          ระยะการเจริญเติบโต 5 เดือน ส่วนของพืชที่นำมาวัดคือ แผ่นใบ ถ้าความเข้มข้นของธาตุในใบฝ้ายอยู่ระหว่าง 2.4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถือได้ว่าเพียงพอ

 

อัตราการใช้ปุ๋ยฟอสเฟตและโพแทสตามผลการวิเคราะห์การปลูกฝ้าย มีดังนี้

 

–          หากค่าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ น้อยกว่า 9 มิลลิกรัม/กิโลกรัม อัตราปุ๋ยที่ควรใส่จะอยู่ที่ 14 กิโลกรัม P2O5/ไร่ หากโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์น้อยกว่า 60 อัตราปุ๋ยโพแทสเซียมที่ควรใส่จะอยู่ที่ 14 กิโลกรัม K2O/ไร่

–          หากค่าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ อยู่ระหว่าง 9-16 มิลลิกรัม/กิโลกรัม อัตราปุ๋ยที่ควรใส่จะอยู่ที่ 6 กิโลกรัม P2O5/ไร่ หากโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์อยู่ระหว่าง 60-120 อัตราปุ๋ยโพแทสเซียมที่ควรใส่จะอยู่ที่ 6 กิโลกรัม K2O/ไร่

–          หากค่าฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ มากกว่า 16 มิลลิกรัม/กิโลกรัมและโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์มากกว่า 120 ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มแล้ว

 

สาระน่ารู้การใช้ปุ๋ยพืชไร่