ปุ๋ยหมัก

ปุ๋ยหมัก คือ

 

ปุ๋ยหมัก-คือ1

ปุ๋ยหมัก (compost) คือปุ๋ยที่ได้จากการหมักซากพืช ซากสัตว์ตลอดจนมูลสัตว์ เพื่อให้อินทรียสารสลายตัวผุพังจากกิจกรรมของจุลินทรีย์ ปุ๋ยหมักผลิตโดยนำวัสดุเหล่านี้มากองรวมกัน รดน้ำให้ชื้น แล้วปล่อยให้ย่อยสลายและแปรสภาพจนกลายเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะเป็นรูพรุน ยุ่ยและร่วนซุย จึงนำไปใช้บำรุงดินต่อไป การย่อยสลายหรือแปรสภาพของวัสดุดังกล่าว เกิดจากกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่ติดมากับเศษวัสดุ ดิน หรือน้ำ จุลินทรีย์ที่มีบทบาทในการแปรสภาพวัสดุมากที่สุด ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย (bacteria) แอคทิโนมัยซีด (actinomycetes) และเชื้อรา (fungi) ในการเตรียมกองปุ๋ยหมักอาจใส่เชื้อเร่ง ซึ่งได้แก่จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการย่อยสลายอินทรียสาร ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีลงไปบ้างเพื่อช่วยเร่งกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินและเพิ่มคุณค่าด้านธาตุอาหารของปุ๋ยหมัก

 

ปุ๋ยหมัก-คือ2

กระบวนการหมัก (composting process) เริ่มมีตั้งแต่สมัยโบราณ มีการสังเกตเห็นว่าพืชที่ปลูกใกล้กองเศษพืชและกองมูลสัตว์ที่เน่าเปื่อย เจริญเติบโตได้ดีกว่าบริเวณอื่นๆ จึงได้มีการนำอินทรียสารที่เน่าเปื่อยเหล่านั้นไปใส่ให้พืชบริเวณอื่นด้วย วิธีการเหล่านี้ได้สืบทอดกันต่อๆมา เป็นภูมิปัญญาสืบทอดสู่ชนรุ่นหลัง มีหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงว่า ในจักรวรรณอัคคาเดียน (Akkadian Empire) ช่วงก่อนสมัยโมเสสประมาณ 1000 ปี ได้มีการใช้ปุ๋ยหมักในการเพาะปลูกแล้ว ในประเทศจีนก็มีการพบหลักฐานว่ามีการใช้ปุ๋ยหมักมาช้านาน แต่เกษตรกรทำปุ๋ยหมักด้วยวิธีธรรมชาติล้วนๆ แต่เมื่อมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นจึงมีการผลิตเพื่อการค้า ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ จึงเริ่มมีการวิจัยปุ๋ยหมักอย่างเป็นระบบในราว พ.ศ.2480

 

ปุ๋ยหมัก-คือ4

การเพาะปลูกโดยทั่วไป เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตซึ่งมีคุณค่าทางเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ส่วนซากพืชที่เหลืออาจนำมาใช้สอยได้หลายอย่าง เช่น หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว จะได้ฟางเพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ นำไปเป็นอาหารโค กระบือ ใช้ในงานหัตถกรรม เป็นวัสดุเพาะเห็ด เมื่อฟางยุ่ยก็นำมาทำเป็นปุ๋ยหมักได้อีก เป็นวัสดุคลุมดินในสวนผัก สำหรับพืชชนิดอื่นๆที่เศษเหลือไม่ได้มีคุณค่าอย่างฟาง เกษตรกรจะปล่อยทิ้งไว้ให้ย่อยสลายไปเองในไร่นาหรือนำมาทำปุ๋ยหมักเพื่อใช้ในฤดูกาลเพาะปลูก นอกจากนี้วัชพืชน้ำที่มีปริมาณมาก เช่น ผักตบชวา ตลอดจนเศษพืชจากอุตสาหกรรมเกษตร เช่น ชานอ้อย และเปลือกผลไม้ต่างๆ ก็นำมาใช้ทำปุ๋ยหมักได้เป็นอย่างดี พืชในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2547 พบว่ามีประมารปีละ 691.5 ล้านตัน และมูลสัตว์ต่างๆอีกปีละ 35.5 ล้านตัน เศษวัสดุอินทรีย์มาจากพืชหลัก พืชไร่ พืชสวน และไม้ยืนต้น ซึ่งเกษตรกรได้นำเศษวัสดุอินทรีย์จากพืชและมูลสัตว์ในไร่นาของตนหรือจัดหามาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม

 

ปุ๋ยหมัก-คือ3

ในชุมชนเมืองมีขยะมูลฝอยที่เป็นของแข็ง (municipal solid waste) ในปริมาณมาก ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดสูง ขยะนั้นมีมากกว่าร้อยละ 60 เป็นอินทรียสาร เช่น เศษอาหาร เศษพืชต่างๆ รวมทั้งเศษกระดาษ ดังนั้นหากมีกระบวนการแยกขยะที่ถูกต้อง แล้วแยกนำเอาอินทรียสารเหล่านั้นมาทำปุ๋ยหมักจะเป็นการช่วยเพิ่มประโยชน์ให้แก่ขยะ 2 ประการ คือ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะด้วยวิธีปกติ ในบางประเทศแบ่งขยะมาทำปุ๋ยหมัก ร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือนำไปกำจัดด้วยการฝังกลบ และมีการหมุนเวียนอินทรียสารต่างๆที่เหลือทิ้งจากชุมชนเมือง มาเป็นวัสดุบำรุงดินเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร เมื่อนำวัสดุอินทรีย์มากองหมักรวมกันและรดน้ำให้มีความชื้นเพียงพอกับความต้องการของจุลินทรีย์ หากกองวัสดุมีการระบายอากาศดีพอ กระบวนการที่จุลินทรีย์ต่างๆในกองแปรสภาพวัสดุอินทรีย์จะเป็นไปแบบใช้ออกซิเจน (aerobic decomposition) กระบวนการแบบนี้ทำให้มีการแปรสภาพเกิดขึ้นได้รวดเร็วแบบไม่ใช้อากาศ วัสดุอินทรีย์ส่วนมากย่อยสลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มีบางส่วนที่แปรสภาพเป็นสารประกอบประเภทเดียวกันกับฮิวมัสในดิน มีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ย่อยสลายได้ช้า

 

ในบทความถัดไป เราจะมารู้จักกระบวนการทางชีวภาพในการหมักปุ๋ยหมักกันค่ะ

 

ปุ๋ยหมัก คือ

ปุ๋ยหมัก คือ

ปุ๋ยหมัก คือ